เปิดโผหุ้น Underperform-Outperform หลังไทยเจอโอไมครอน

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

โบรกฯ เปิดโผหุ้น 7 กลุ่ม Underperform และ 4 กลุ่ม Outperform หลังไทยเจอโควิด-19 โอไมครอนรายแรกในประเทศ เชื่อกระทบตลาดหุ้นแค่ช่วงสั้น เหตุความรุนแรงของสายพันธุ์ยังต่ำ มั่นใจไม่มีล็อกดาวน์ แต่กรณี worst case หากมีล็อกดาวน์จริง หุ้นกลุ่ม domestic play ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองจะได้รับผลกระทบ

KTBS เปิดโผหุ้น Underperform-Outperform หลังไทยเจอโอไมครอน

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า เชื่อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron จะเป็นปัจจัยกดดัน SET Index มากขึ้น หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย โดยในกรณี worst case หากเกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในประเทศ และมีการ lockdown เกิดขึ้น มองว่าหุ้นกลุ่ม domestic play ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองจะได้รับผลกระทบมากขึ้น

หุ้นที่คาดว่าจะ Underperform มากสุด จากการพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ Omicron รายแรกในประเทศไทย ได้แก่ PLANB/VGI จากจำนวนคนออกจากบ้านน้อยลง กระทบต่อ OOH media, CENTEL/ERW/AAV จากนักท่องเที่ยวในประเทศลดลง และ BEM จากจำนวนผู้โดยสารลดลง

โดย Sector ที่มีโอกาส Underperform มากสุด ได้แก่

1) Media : MAJOR, PLANB, VGI

2) Tourism & Aviation : MINT, SHR, ERW, CENTEL, AOT, AAV, BA, SPA

3) Ground transportation : BEM, BTS

4) Energy : TOP, SPRC, ESSO, BCP, IRPC

5) Bank & Finance : KBANK, SCB, MTC, SAWAD, TIDLOR, AEONTS, KTC

6) Commerce : CRC, CPALL

7) Industrial Estate : AMATA, WHA

หุ้น รพ.นำกลุ่มหุ้น Outperform เชียร์ BCH-CHG

ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform มากสุด จากการพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ Omicron รายแรกในประเทศไทย ได้แก่ BCH, CHG เนื่องจากได้ประโยชน์จากการรักษาผู้ป่วยโควิด SMD จากความต้องการเครื่องมือแพทย์สูงขึ้น หากโควิดมีการระบาดรุนแรง STGT ได้ประโยชน์จากความต้องการใช้ถุงมือยางในระดับสูง และ MEGA จากความต้องการบริโภควิตามินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น

โดย Sector ที่มีโอกาส Outperform มากสุด ได้แก่

1) Healthcare & Medical equipment : BCH, CHG, SMD, STGT

2) Food supplement : MEGA

3) IT Distributor : COM7, SYNEX, SIS

4) Global play : ASIAN, TU, KCE, HANA, NER, SUN

CGS, CIMB มั่นใจไม่ล็อกดาวน์ ส่วน SET Index แกว่งตัว

บริษัท หลักทรัพย์ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS CIMB เปิดเผยว่า ประเด็นที่ต้องตามในสัปดาห์นี้มีอย่างเดียว คือ การแพร่ระบาดของเชื้อ Omicron ว่าจะแพร่ระบาดขนาดไหน โดยตอนนี้พบไปทั่วโลกในหลายประเทศ แต่ทางรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่าคือยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อดังกล่าว จึงมองได้ว่าผลกระทบเมื่อเทียบกับสายพันธฺุ Delta น่าจะมีความรุนแรงน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม แม้ไทยพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย แต่ยังไม่พบเพิ่มเติม สรุปผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกของสายพันธุ์ Omicron ตอนนี้ยังต่ำกว่า Delta ทิศทางดัชนีในสัปดาห์นี้คาดยังคงมีสิทธิแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพราะยังเป็นช่วงที่ต้องจับตาดูผลการแพร่ระบาดของ Omicron และข้อสรุปของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรุนแรงของเชื้อ

หากออกมาในเชิงว่าแพร่ระบาดเร็วแต่ความรุนแรงต่ำกว่า Delta น่าจะคาดได้ว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะยังพอขยับขึ้น แต่หากรุนแรงกว่า Delta เชื่อได้ว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะปรับตัวลงมากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทย 1 ราย คาดรัฐบาลคงยังไม่ตัดสินอะไรเกี่ยวกับการ Lockdown หรือเพิ่มมาตรการคุมเข้มออกมาอีกในช่วงนี้

FSS คาดกระทบช่วงสั้น แต่ยังต้องระมัดระวัง

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในไทย จากบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่ค่อนข้างผ่อนคลาย และเริ่มวิตกกังวลน้อยลงต่อโอไมครอนว่าอาจไม่น่ากังวลอย่างที่คิด

อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลปัจจุบันส่วนใหญ่จะพบว่าความรุนแรงต่ำ แต่ยังคงต้องระมัดระวังและจับตาข้อมูลเพิ่งเติมอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หุ้นในกลุ่ม Reopening Play อย่างค้าปลีก ร้านอาหาร ท่องเที่ยว คาดยังถูกถ่วง และเชิงกลยุทธ์ เรายังเน้นหุ้นที่ถูกกระทบจำกัดหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ ได้แก่ การแพทย์ อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่งและการส่งออก เทคโนโลยี คาดสามารถปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด

อ้างอิง
https://www.mgronline.com/stockmarket