DELTA เผยไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิ 4.11 พันล้าน

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

“เดลต้า อิเลคโทรนิคส์” เผยไตรมาส 3 ปี 65 กำไรสุทธิ 4.11 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 243.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุยอดขายสินค้าและบริการเติบโต และรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

บริษัท เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 4,110,009,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 243.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,191,265,000 ล้านบาท

โดยบริษัทมียอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสนี้อยู่ที่ 31,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยส่วนงานเพาเวอร์อิเลคโทรนิคส์ยังคงเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center, Server & Cloud Storage โดยเฉพาะเพาเวอร์ซัพพลายที่มีการออกแบบเฉพาะ (Custom Design Power) รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อีเลคโทรนิคส์กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Power)กลุ่มโซลูชั่นพัดลม และระบบจัดการความร้อน (Fan & Thermal ManagementSolution)กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industrial Automation) รวมถึงระบบอัตโนมัติสำหรับอาคาร (Building Automation)ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน ยอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้า

แต่ชะลอตัวลงจากฐานสูงในไตรมาสที่แล้ว สืบเนื่องจากดีมานด์โซลูชั่นด้านการสื่อสารและระบบเครือข่ายโทรคมนาคมมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในตลาดยุโรปกำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้มีจำนวน 7,298ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 23.3ของยอดขาย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากอัตราร้อยละ 19.2 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ ได้ประสบเหตุการณ์น้ำท่วมอันส่งผลกระทบต่อคลังจัดเก็บของแห่งหนึ่ง

โดยบริษัทฯ สามารถบริหารสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนจากการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดดในปีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์พาวเวอร์ซัพพลาย สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และยานยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับยอดขายขณะที่อัตรากำไรของกลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานปรับตัวลดลงสอดคล้องกับรายได้และรูปแบบโครงการ

ทั้งนี้บริษัท ฯ วางกลยุทธ์เสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตโดยใช้ระบบ Smart Manufacturing และเร่งแผนการขยายกำลังการผลิตโดยการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในช่วงกลางปี 2566 เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมการวิจัยและพัฒนา) มีจำนวน 3,524ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 จากไตรมาสก่อน โดยค่าใช้จ่ายด้านการขายปรับตัวสูงขึ้น

สอดคล้องกับรายได้พร้อมกับกิจกรรมด้านการวิจัยพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อขยายขีดความสามารถในการแข่งขันและบริษัทฯ บันทึกค่าตอบแทนพนักงานในรูปแบบเงินรางวัลรายไตรมาสจากผลการปฏิบัติงานที่ดีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีจำนวน 3,774 ล้านบาท เติบโตสูงร้อยละ 188.2 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2564 และคิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงานร้อยละ12.0 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.1ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว

ซึ่งบริษัทฯ ได้บันทึกผลขาดทุนสำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้า ท่วมในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จงวดดังกล่าว จำนวน 393 ล้านบาท นอกจากความสำเร็จในการดา เนินงานธุรกิจหลักที่กล่าวมาแล้วบริษัทฯ รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 215 ล้านบาทในไตรมาสนี้ส่งผลให้กำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 3/2565 มีจำ นวน 4,110ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ243.5 จากปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 3.29 บาทต่อหุ้นเทียบกับ 0.96 บาทต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน