หุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือ

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

สุนันท์ ศรีจันทรา
ข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่ ฉุดให้ตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนัก โดยเฉพาะระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งดัชนีสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในปีนี้ที่ระดับ 1,617.87 จุด และไม่รู้ว่าจะเป็นจุดต่ำสุดในรอบนี้หรือไม่

เพราะหลังลงไปแตะระดับ 1,617 ดัชนีหุ้นก็ดีดกลับ และขึ้นมายืนเหนือ 1,630 จุดได้ การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคาดว่าการประชุมครั้งต่อไประหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้จะมีการประกาศขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 0.25% และถือเป็นปัจจัยลบต่อนักลงทุนทั่วโลก จนเกิดการเทขายหุ้นตามมา

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปักหัวลงติดต่อตั้งสัปดาห์ก่อน และกลายเป็นปัจจัยชี้นำกดให้ตลาดหุ้นย่านเอเชียปรับฐานลงตาม

ตลาดหุ้นไทยที่กำลังเปราะบางกับข่าวร้าย และอยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยข่าวการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นักลงทุนจึงแห่เทขายหุ้นทิ้ง กดดัชนีหุ้นรูดลงทันทีที่เปิดการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี และลงไปลึกถึงประมาณ 26 จุด ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อเข้ามา ผลักดันให้ดัชนีกระเตื้องขึ้น ก่อนปิดที่ 1,634.17 จุด ลดลงเพียง 9.27 จุด

ตลาดหุ้นถูกปกคลุมด้วยข่าวร้าย ไม่ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การเผชิญหน้าของประเทศมหาอำนาจในยูเครน และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนหวั่นไหวความผันผวนของตลาด กลัวดัชนีจะหลุดระดับ 1,600 จุด จนไม่กล้าช้อนเก็บหุ้น และพร้อมจะเทขายเมื่อมีข่าวร้ายกระทบ

ดัชนีหุ้นน่าจะปรับฐานลงไปแถว 1,600 จุดแล้ว แต่กลับทรงตัวในระดับ 1,630-1,640 จุด แม้ระหว่างชั่วโมงซื้อขายในบางวันจะทรุดหนักอย่างน่ากลัว แต่มีแรงซื้อเข้ามาพยุงแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นักลงทุนต่างชาติยังเป็นตัวช่วยสำคัญในรอบนี้โดยซื้อหุ้นต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวร้ายปัจจัยลบกระทบ แต่ต่างชาติปักหลักซื้อไม่เลิก จนยอดซื้อสุทธิสะสมนับจากต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 27 มกราคม มีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 14,700 ล้านบาท

เพียงแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ต่างชาติไม่ได้ซื้อ โดยผู้ซื้อรายใหญ่กลายเป็นนักลงทุนรายย่อย และเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อจำนวนรวมกว่า 3,982 ล้านบาท ส่วนกองทุน พอร์ตโบรกเกอร์ และต่างชาติเทขายหุ้นหมด

การรวมพลังของนักลงทุนรายย่อยซื้อสวนแรงขายของต่างชาติ และดึงดัชนีขึ้นมาจากเหวลึกได้ แสดงให้เห็นว่า เมื่อหุ้นปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 1,600 จุด รายย่อยพร้อมจะสู้ตาย โดยอาจมองว่าดัชนีไหลลงลึกมากเกินไป

และการปรับตัวลงจากระดับ 1,680 จุด หรือลงมาประมาณ 50 จุด ถือว่าซึมซับรับข่าวร้ายต่างๆ ไปหมดแล้ว ถ้าไม่มีข่าวร้ายชิ้นใหม่เข้ามาหุ้นน่าจะตั้งหลักได้ โดยไม่น่าจะทรุดลงไปถึงระดับ 1,600 จุด

ดัชนีระดับ 1,630 จุด อาจเป็นแนวตั้งรับของนักลงทุนรายย่อย โดยถ้าหลุดลงไปรายย่อยคงมองเป็นโอกาสในการช้อนซื้อ

ถ้าสถานการณ์ในยูเครนไม่มีพัฒนาการที่เลวร้ายลง ถ้าดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับขึ้นเพียง 0.25% และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีอันเป็นไป ดัชนีที่หล่นไปที่ระดับ 1,617.87 จุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอาจเป็นจุดต่ำสุดของการปรับฐานในรอบนี้ ซึ่งหมายถึงจุดต่ำสุดอาจผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ในยูเครน และหยั่งผลกระทบการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ต่อไป และไม่มองโลกในแง่ดีเกินไป

เพราะข่าวร้ายยังไม่สงบ สถานการณ์ยังไม่นิ่ง จึงมีโอกาสที่จะเกิดจุดต่ำสุดใหม่ โดยหุ้นดิ่งลงต่ำกว่า 1,617 จุดได้ถ้าต่างชาติหันมาขาย กองทุนถล่มหุ้นไม่เลิก

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket