ขนมครกสิงคโปร์ความจริงแล้วมีชื่อเรียกหลายชื่อมาก เช่น ขนมครกใบเตย ขนมเขียว จอร้อ ชาราบี เป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเป็นต่างชาติ แต่หากินไม่ได้ในประเทศสิงคโปร์ ลักษณะเนื้อขนมครกชนิดนี้จะเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นใบเตย
ที่มาของชื่อ “ขนมครกสิงคโปร์”
เนื่องจากแป้งที่ใช้ทำขนมครกชนิดนี้คือ “แป้งมันสำปะหลัง” แต่คนสมัยก่อนนิยมเรียกแป้งชนิดนี้ว่า “แป้งมันสิงคโปร์” จึงเป็นที่มาของชื่อ “ขนมครกสิงคโปร์” นั้นเอง
สูตรในการทำขนมครกสิงคโปร์
อุปกรณ์
- พิมพ์เหล็กลายดอกมะยม
- เตาแก๊ส
- ไม้สำหรับแซะขนม
- กระบวยหรือขวดบีบ (สำหรับใส่แป้งที่ผสมแล้ว)
- ตะแกรงเหล็ก หรือภาชนะ (สำหรับวางพักขนมครกสิงคโปร์)
- ตะกร้อมือ
- ที่ร่อนแป้งแบบละเอียด
วัตถุดิบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
- น้ำใบเตยเข้มข้น 1 ถ้วยตวง
- นมรสจืด 1 ถ้วยตวง
- หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- น้ำมันพืช ( สำหรับทาพิมพ์ )
ขั้นตอนการทำ
- เริ่มจากการนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้ง แป้งสาลี แป้งมัน และผงฟู มาเทใส่ที่ร่อนแป้งแบบละเอียดร่อนแป้งให้เข้ากัน
- ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงในส่วนผสมกับแป้ง แล้วเคล้าให้ส่วนผสมแป้งและน้ำตาลเข้ากัน
- ใส่ไข่ไก่ลงไปใช้ มือนวดเบาๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ค่อยๆ ใส่น้ำกะทิ และนมสดรสจืดตามลงไปทีละน้อย
- จากนั้นใส่น้ำใบเตยใช้ทัพพีคนจนน้ำตาลละลาย ตั้งพักไว้ 20 นาที
- นำเตาขนมครกวางบนเตาแก๊ส ใช้ไฟอ่อนที่สุด แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันทาเตาบางๆ
- ตักแป้งหยอดลงในเตาไม่ต้องเต็ม รอสักพักขนมครกใบเตยจะเริ่มฟูขึ้นมา ปิดฝาเพื่อให้ขนมขนมครกใบเตยสุกเร็วขึ้น
- เมื่อขนมสุกแล้วใช้ไม้ปลายแหลม หรือไม้จิ้มฟันแซะขึ้นมาจากพิมพ์
- จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
นอกจากชื่อจะแปลกแล้ว ขนมครกสิงคโปร์ยังให้รสชาติความอร่อยที่แปลกแตกต่างจากขนมครกที่คุณเคยทานมาก่อนอย่างแน่นอน