ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โปรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายซึ่งมีอยู่ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้วมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะคอยผลิตสารที่ทำให้เกิดการทำงานของอภัยวะต่างๆอย่างปกติ แต่ด้วยเมื่อร่างกายเติบโต ซึ่งต้องผ่านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งอาหารที่รับประทานเข้าไป ทำให้จุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายลดน้อยลง เมื่อเราสูญเสียจุลินทรีย์ไปเรื่อยๆ ในขณะที่เรารับจุลินทรีย์ที่ก่อโรคเข้ามาสู่ร่างกาย ก็ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ เพราะจุลินทรีย์ตัวดีไม่มีอิทธิพลเพียงพอในการช่วยทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
อย่างไรก็ดี โปรไบโอติกนั้นมีอยู่ในอาหารบางชนิด เช่น อาหารหมักดอง เป็นต้น หากทานเป็นประจำก็สามารถทดแทนได้ แต่ในความเป็นจริงการที่จะทานอาหารเหล่านี้ทุกวันอาจจะเป็นเรื่องยาก ทำให้ในแต่ละวันเรารับโปรไบโอติกเข้าไปสู่ร่างกายไม่เพียงพอ สงผลต่อความผิดปกติของร่างกาย เช่น ลำไส้แปรปรวน, ความเครียด, ท้องอืด, ท้องผูก เป็นต้น
อีกเหตุผลหนึ่งที่การทานโปรไบโอติกจากอาหารทั่วไปมักจะไม่เพียงพอก็เพราะว่า อาหารที่เราทานไปนั้น เราไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่าเป็นจุลินทรีย์สายพันธุ์ใด ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดของแต่ละบุคคล เพราะจุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์ต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายในแต่ละด้านไม่เหมือนกัน เช่น การแก้ลำไส้แปรปรวน, การช่วยในการขับถ่าย, การเพิ่มภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ในแต่ละวันจุลินทรีย์จะถูกขับออกมาสู่ภายนอกร่างกายประมาณ 1,000 – 10,000 ล้านตัว/วัน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเราควรทานโปรไบโอติกเข้าไปอย่างน้อย 1,000 ล้านตัว/วัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะชดเชยจุลินทรีย์ที่เราเสียไปนั่นเอง
ดังนั้นเราจึงควรทานโปรไบโอติกแบบอาหารเสริมจะดีต่อร่างกายมากกว่า เพราะได้ประโยชน์จากจุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์อย่างแน่นอน เราสามารถเลือกทานได้ว่ามีปัญหาที่ตรงไหน ต้องทานโปรไบโอติกที่มีจุลินทรีย์สายพันธุ์ใด และก็จะทราบจำนวนจุลินทรีย์ที่แน่ชัดว่าที่ทานไปนั้นเพียงพอในแต่ละวันหรือไม่
นอกจากการทานโปรไบโอติกแล้ว อีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ พรีไบโอติก ซึ่งถือว่าเป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ที่เป็นโปรไบโอติก ทำให้จุลินทรีย์ที่เราทานเข้าไปสามารถตั้งรกรากและเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในร่างกายเราได้ดีมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งโปรไบโอติกและพรีไบโอติก เราเรียกว่า ซินไบโอติกนั่นเอง
