ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของหลาย ๆ เจ้าพร้อมกัน ผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม?

ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9282/2559

คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกัน มีวันเวลากระทำความผิดและสถานที่เกิดเหตุเช่นเดียวกับคดีนี้ เพียงแต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของงานศิลปกรรมต่างรายกันเท่านั้น การที่จำเลยนำออกขาย เสนอขาย และมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มีรูปงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายต่างรายหลายรายการต่อเนื่องในวันเดียวกัน จึงฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน การกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหายแต่ละรายถือเป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ศปก.อ.33/2558 ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับความผิดที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้แล้ว คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องในคดีดังกล่าว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับคดีดังกล่าวจึงระงับไป

อธิบายกฎหมาย

ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของหลายๆ เจ้าพร้อมกัน ผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม

เราจะพบเห็นได้ในหลายๆ ร้านค้าที่มีการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ซึ่งภายในร้านอาจมีการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์รายเดียวหรือหลายรายก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าร้านค้านั้น ๆ ขายสินค้าชนิดใด

ถ้าเป็นสินค้าเกี่ยวกับเด็กก็อาจจะพบเห็นได้บ่อยครั้งในการละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการนำสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์หลายๆ รายนำมาขายในที่เดียวกัน

หรืออาจจะเป็นร้ายขายซีดีที่เคยเป็นข่าวในอดีต คือมีการนำซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ของนักร้องค่ายเพลงหลายๆ ค่ายมาขายในที่เดียวกัน และเป็นผู้ขายรายเดียวกัน

จึงถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดคนเดียวกัน ดังนี้จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือเป็นความผิดหลายกรรม ที่จะมีผลต่อการลงโทษของศาล

เพราะความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมมีผลลัพธ์ต่างกันในการลงโทษของศาล หากเป็นความผิดกรรมเดียวศาลก็จะตัดสินให้ลงโทษจำเลยได้เพียงครั้งเดียว แต่หากเป็นความผิดหลายกรรมต่อเนื่องกัน ศาลก็จะลงโทษจำเลยแต่ละกระทงความผิดไป คือเป็นการลงโทษเรียงกระทงแต่ละความผิดไป และสามารถนำโทษเหล่านั้นมานับโทษต่อกันได้

ดังนั้นการที่จะดูว่าความผิดนั้นๆ เป็นความผิดหลายกรรมหรือกรรมเดียวจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ศาลจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานประกอบด้วย

ตามคำพิพากษาฎีกานี้เป็นกรณีที่ผู้เสียหายได้ฟ้องร้องจำเลยในคดีก่อน โดยเป็นความผิดที่เกิดขึ้นในวันและเวลาเดียวกันและทั้งสถานที่เดียวกันกับที่จำเลยกระทำความผิดตามคำฟ้องของผู้เสียหายในครั้งก่อน มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก

ศาลฎีกาตัดสินไว้ว่าการที่จำเลยได้กระทำความผิดในวันและเวลาพร้อมทั้งสถานที่เดียวกันในคราวเดียวกัน และผู้เสียหายก็ได้ฟ้องร้องในคดีก่อนแล้ว เพียงแต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของงานที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ต่างรายกัน จึงนำมาฟ้องเป็นคดีนี้

ถือว่าจำเลยได้กระทำความผิดกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ไม่ใช่เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่อเนื่องกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำความผิดด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์หลายราย และมีผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างรายกัน

แต่ศาลมองว่าเป็นการกระทำความผิดในครั้งเดียวกัน ถือว่าเป็นการกระทำความผิดคราวเดียวกันตามกฎหมายแล้ว ไม่ใช่การกระทำความผิดหลายครั้งที่แบ่งแยกการกระทำความผิดออกจากกันได้

เมื่อการที่จำเลยนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายที่ละเมิดลิขสิทธิ์หลายๆ อย่างมาขายในสถานที่เดียวกัน วันและเวลาในการกระทำความผิดคือวันเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

ศาลจึงตัดสินให้จำเลยรับโทษตามบทกฎหมายบทที่หนักที่สุดได้คราวเดียว