ส่งภาพลับและวิดีโอลามก(ลับ)ให้ลูกสาวผู้เสียหายดู ผิด พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่?

ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2561

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยนำภาพและวิดีโอลามกส่งเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ส่งให้บุตรสาวโจทก์ดูเพื่อประจานโจทก์ ซึ่งมีเพียงจำเลยและบุตรสาวโจทก์เท่านั้นที่มีรหัสในการเข้าดูประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าดูได้หากไม่ทราบรหัส จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (4)

จำเลยส่งข้อความทางผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตถึงโจทก์หลายครั้ง ขู่เข็ญโจทก์ให้จ่ายเงินจำเลย มิเช่นนั้นจะเปิดเผยความลับรูปภาพและวิดีโอที่โจทก์ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น ในขณะที่ยังไม่ได้หย่าขาดจากจำเลย การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยขู่เข็ญจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ เมื่อโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินให้ตามที่จำเลยขู่เข็ญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์

อธิบายกฎหมายแบบบ้านๆ

มีคดีที่เกิดขึ้นจริงกรณีจำเลยได้บันทึกวิดิโอและภาพลามกอนาจารของผู้เสียหาย ระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้ในขณะนั้นผู้เสียหายจะยินยอมตกลงให้อัดวิดิโอไว้หรือไม่ก็ตาม ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายยังอยู่ในฐานะผัวเมียกับจำเลยอยู่ คือยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน และจำเลยได้บันทึกภาพและวิดิโอลามกนั้นไว้

จากนั้นจำเลยจึงข่มขู่เพื่อเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายเรื่อยมา โดยขู่เข็ญว่าหากผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่ตนเองตามที่เรียกร้อง จำเลยก็จะนำวิดิโอและภาพลามกขณะที่ผู้เสียหายร่วมเพศกับชายอื่นส่งให้แก่ลูกสาวผู้เสียหายได้ดู โดยตั้งใจจะให้ผู้เสียหายกลัวว่าตนเองจะต้องเสียหายจากการถูกเปิดโปงพฤติกรรมนี้

คดีนี้ได้ถูกตัดสินโดยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2561 ว่า ถึงแม้ว่าจำเลยจะส่งภาพและวิดิโอลามกอนาจารนั้นทางคอมพิวเตอร์ โดยตั้งใจจะให้ลูกสาวผู้เสียหายได้พบเห็นและเปิดดู จนรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของแม่ตนเองแล้วนั้น การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตาม พรบ.คอมฯ เพราะจำเลยส่งให้ลูกสาวผู้เสียหายทางอีเมล์ส่วนตัว ดังนั้นผู้อื่นจึงไม่สามารถเข้าดูวิดิโอและภาพลามกนั้นได้หากไม่มีรหัสเข้าอีเมล์นั้น

ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พรบ.คอมฯ แต่ไม่ใช่ว่าการกระทำเช่นนี้จะไม่เป็นความผิดเสียเลย แต่จะมีความผิดฐานอื่นหรือไม่ ต้องพิจารณาต่อไป

ศาลได้ตัดสินต่อไปว่า เมื่อจำเลยได้ขู่เข็ญเรียกร้องเงินหรือทรัพย์สินจากผู้เสียหาย โดยขู่ด้วยว่าหากผู้เสียหายไม่ยอมให้ตามที่ร้องขอ ก็จะเปิดโปงพฤติกรรมด้วยการส่งวิดิโอและภาพลามกของผู้เสียหายให้ลูกสาวดู

แน่นอนว่าผู้เสียหายจะต้องกลัวว่าลูกสาวของตนเองจะได้เห็นวิดิโอนั้น จนอาจทำให้ผู้เสียหายต้องเสียหาย นับได้ว่าเป็นการขู่เข็ญตามกฎหมายเพื่อหวังจะได้เงินจากผู้เสียหาย

ถึงแม้ว่าจำเลยจะได้ส่งภาพและวิดิโอนั้นให้แก่ลูกสาวผู้เสียหายได้ดูแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้เงินแก่จำเลยก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามกฎหมายอยู่ดี แม้จะยังไม่เป็นความผิดสำเร็จ แต่ก็เป็นความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ตามกฎหมาย เป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นติดคุก

ดังนั้นจำเลยจึงเป็นผู้กระทำความผิดจากการพยายามรีดเอาทรัพย์นั้น แม้จะไม่ได้ทรัพย์ตามที่ตั้งใจไว้ตามคำขู่ผู้เสียหายก็ตาม ถือว่าจำเลยได้พยายามกระทำความผิดแล้ว เพียงแต่การกระทำความผิดนั้นยังไม่สำเร็จตามแผนที่จำเลยวางไว้ โดยยังไม่ได้เงินจากผู้เสียหาย

แต่จำเลยก็อาจต้องรับโทษติดคุกทางอาญา เพราะข้อหาความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์เป็นความผิดอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกนั่นเอง